หน้าเว็บ

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เรื่องสั้น : เหตุเกิดเพราะตาขวา



๐๖.๐๐ น.
กริ้ง!!! เสียงนาฬิกาบอกเวลายามเช้า ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ ผมรีบลุกออกจากที่นอน บิดขี้เกียจสักสองสามที ก่อนที่จะพับผ้าห่มแล้วลุกเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว
๐๖.๓๐ น.
            ผมมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดตรงผนังห้อง ก่อนที่ผมจะรีบไปอาบน้ำ วันนี้ผมก็อาบน้ำตามปกติ แต่เผอิญว่า วันนี้ตาขวาของผมกระตุกบ่อยมากในขณะที่ผมอาบน้ำ ทำให้ผมพึมพำกับตัวเองว่า “วันนี้ต้องเจอเรื่องโชคร้ายตลอดทั้งวันแน่ๆเลย” ตามที่คนโบราณบอกไว้ว่า "ขวาร้าย ซ้ายดี"
๐๗.๐๐ น.
ผมรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว สวมสูท ผูกเนคไท ก่อนที่จะขับรถยนต์ส่วนตัวออกไปจากบ้านของตนเอง ก่อนที่ผมจะสายไปมากกว่านี้ ผมขับตรงไปที่ประตูบ้านของผม เลี้ยวขวา เพื่อมุ่งไปยังบริษัทที่ผมทำงาน ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเช่นวันอื่นๆที่ผ่านมา แต่วันนี้ผมสังเกตเห็นชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดไว้เคราเต็มหน้า สวมแว่นตาดำ กำลังมองมาที่บ้านของผม แต่ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก ผมจึงคลายความสนใจก่อนที่จะเหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งไปยังจุดหมาย
๐๘.๐๐ น.
            นี่ผมสายมากๆแล้ว ผมไม่อยากให้คนในบริษัทมองผมไม่ดี มองผมว่าไม่มีความรับผิดชอบ มาทำงานสาย ถึงแม้ผมจะเป็นผู้จัดการแผนกที่มีเงินเดือนเหยียบแสนไม่รวมค่าสวัสดิการอื่นๆ แต่ผมก็อยากดูดีไร้ที่ติในสายตาคนรอบข้างเหมือนกัน เพื่อหาใครสักคนมาเป็นคู่เคียงข้าง และไม่ปล่อยให้ผมอยู่บ้านคนเดียวเหมือนเช่นทุกวันนี้
๐๙.๓๐ น.
            กว่าผมจะมาถึงบริษัทก็ต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงครึ่ง ไม่ใช่เพราะที่ทำงานของผมอยู่ไกล แต่เป็นเพราะการจราจรบนท้องถนนติดขัดเหมือนเช่นวันก่อนๆและยิ่งไปกว่านั้นก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในเส้นทางที่ผมต้องใช้ขับเป็นประจำเพื่อมายังบริษัท ทำให้วันนี้ผมมาสายกว่าปกติ และสิ่งนี้เองกระมัง ที่เป็นสาเหตุทำให้ตาขวาของผมกระตุกบ่อยตอนที่ผมอาบน้ำ
๑๒.๐๐ น.
            ผมขับรถออกไปเพื่อไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านโปรดของผมที่ผมมาทานเป็นประจำ ซึ่งอยู่ตรงหน้าปากซอยก่อนที่จะเข้ามาบริษัทผม ผมสั่งกระเพราะหมูกรอบเหมือนเช่นวันที่ผ่านมา ตาขวาของผมเริ่มกระตุกอีกแล้ว เหตุร้ายอะไรจะเกิดกับผมอีกนะ
๑๓.๐๐ น.
            และแล้วเหตุร้ายที่ว่าก็เกิดขึ้น ผมลืมเอากระเป๋าเงินติดตัวมาด้วย ผมไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ผมจะทำอย่างไรดี ผมเลยตัดสินใจเดินไปที่แม่ค้าเพื่อบอกถึงสาเหตุที่ผมลืมเอากระเป๋าเงินมา ซึ่งแม่ค้าก็ใจดีบอกว่า ครั้งหน้าค่อยเอามาให้ก็ได้ ผมกล่าวขอบคุณแม่ค้าแล้วขับรถออกไป
๑๘.๐๐ น.
            วันนี้ผมก็เลิกงานตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน ผมขับรถออกจากบริษัทเพื่อกลับบ้าน ผมจะนำเงินไปคืนแม่ค้าแต่ไม่ทันเสียแล้ว แม่ค้าปิดร้านไปแล้ว ผมมองไปที่ร้านแต่ทันใดนั้นเอง ตาขวาของผมกระตุกอีกแล้ว “วันนี้มันจะซวยอะไรกันนักกันหนาว่ะ” ผมพูดออกไปด้วยความโมโห
๑๘.๓๐ น.
            ผมกลับมาถึงบ้าน เปิดประตูเข้าไปในบ้านและนั่งลงตรงโซฟาที่ห้องรับแขก ผมเปิดรายการโทรทัศน์ที่ผมชอบดูเป็นประจำ ดูข่าว และทำกับข้าวกินเอง
๒๒.๐๐ น.
            ผมอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ดื่มนมอุ่นๆที่เตรียมไว้ แล้วเดินไปที่เตียง ห่มผ้า ผมอธิษฐานในใจว่า “ขอให้วันพรุ่งนี้ เจอแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิตด้วยเถิด” และผมก็หลับไป
๐๒.๐๐ น.
            ผมต้องตื่นขึ้นมาเพราะผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากทางหลังบ้าน ผมเดินไปดู และสิ่งที่ผมเห็นคือกลุ่มชายฉกรรจ์สามสี่คนที่กำลังรื้อข้าวของในบ้านของผม เหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ หนึ่งในชายฉกรรจ์เห็นผมจึงบอกให้พรรคพวกเข้ามาจับผมมัดติดกับเก้าอี้ หนึ่งในชายฉกรรจ์เดินเข้ามาหาผมแล้วตะคอกใส่หน้าผมว่า “เงินอยู่ที่ไหน”
            ตอนแรกผมขัดขืนไม่ยอมบอก แต่ด้วยความกลัวประกอบกับปืนที่กำลังจ่อหัวผมอยู่ จึงทำให้ผมบอกที่ซ่อนเงินของผมให้พวกเขารู้
            “เงินเยอะเหมือนกันนี่ผู้จัดการ อยู่คนเดียวไม่เห็นต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้เลย แบ่งให้พวกผมใช้บ้างก็ดีนะ ฮ่าๆ”  หนึ่งในชายฉกรรจ์พวกนั้นพูดพร้อมหัวเราะขึ้น ทำให้คนอื่นๆหัวเราะตาม ผมสังเกตชายฉกรรจ์คนนี้ และก็นึกถึงหน้าชายคนหนึ่ง ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดไว้เคราเต็มหน้า สวมแว่นตาดำ ที่ผมเจอเมื่อตอนเช้า และผมคิดว่าเขาก็คงเป็นหัวหน้าในการปล้นครั้งนี้แน่นอน
            “แล้วเราจะเอาไงกับมันดีล่ะครับ ลูกพี่” ความคิดผมไม่ผิดพลาด หนึ่งในชายฉกรรจ์พูดกับหัวหน้าของตน
            “มันเห็นหน้าพวกเราแล้ว จะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ยิงทิ้งเลย” หัวหน้าพูดขึ้นเพื่อเป็นการเสนอทางออก
            “อย่านะ อย่าทำอะไรผมเลย เงินของผมพวกคุณก็ได้ไปแล้ว ไว้ชีวิตผมเถอะ” ผมกล่าวอ้อนวอนเผื่อว่าพวกเขาจะใจอ่อน
            “ไม่!!!” ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าตะคอกก่อนที่จะพูดต่อไปว่า “มึงเห็นหน้าพวกกูแล้วก็ปล่อยมึงให้รอดไม่ได้หรอก”
            สิ้นเสียงหัวหน้า ลูกน้องหยิบปืนขึ้นจ่อหัวผมอีกครั้ง
            “ขอให้วันพรุ่งนี้ เจอแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิตด้วยเถิด” คำอธิษฐานของผมที่ผมได้อธิฐานไปก่อนนอน ไม่เป็นจริงเสียแล้ว เพราะผมกำลังจะไม่มีวันพรุ่งนี้ให้ตื่นขึ้นมาเจอวันดีๆอีกต่อไปแล้ว
            ผมหลับตาลง แล้วนึกในใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งที่ตาขวาของผมพยายามจะบอกผมใช่ไหม” ขอบคุณนะครับ “ตาขวา” แต่ผมคงจะโง่เองที่ไม่ยอมเชื่อคุณ ลาก่อนครับ
            ผมหลับตาลง ก่อนที่จะ...
            ปัง!!! เสียงกระสุนปืนแล่นออกมาจากลำกล้องมุ่งตรงมาที่หัวของผม ทุกอย่างค่อยๆมืดลงไปเรื่อยๆ ก่อนที่ผมจะมองไม่เห็นอะไรเลย
.
.
.
๐๖.๐๐ น.
กริ้ง!!! เสียงนาฬิกาบอกเวลายามเช้า ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ ผมรีบ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น